เคล็ดลับวางแผนการเงินที่คุณต้องรู้ ก่อนซื้อบ้าน
เคล็ดลับวางแผนการเงินที่คุณต้องรู้ ก่อนซื้อบ้าน
อยากซื้อบ้านแต่กลัวตัวเองผ่อนไม่ไหว? เงินเดือนถึงแต่จะผ่อนได้จริงไหม? แล้วควรวางแผนทางการเงินอย่างไรถึงจะผ่อนบ้านรอดไม่ถูกยึด? เชื่อว่าคำถามเหล่านี้ เป็นสิ่งที่คนมีแพลนจะซื้อบ้านรู้สึกสงสัย วันนี้ #คุยเรื่องบ้านกับพีบีเอ เราจะมาพูดคุยกันเรื่อง “เคล็ดลับวางแผนการเงินที่คุณต้องรู้ ก่อนซื้อบ้าน” เคล็ดลับดี ๆ เพื่อให้สามารถวางแผนและผ่อนบ้านได้อย่างสบายใจมากขึ้น
ปัจจัยที่ธนาคารใช้ประเมินในการให้วงเงินกู้ซื้อบ้าน
เริ่มต้นกันด้วยการทำความเข้าใจถึงปัจจัยที่ธนาคารนำมาใช้ในการให้วงเงินกู้ซื้อบ้านกันก่อนว่า มีการประเมินด้านไหนบ้าง ซึ่งธนาคารจะเป็นผู้ประเมินว่ารายได้ของคุณเหมาะสมที่จะได้รับอนุมัติหรือไม่ โดยพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้
• รายรับ หมายถึง เงินที่คุณได้รับเข้ามาในแต่ละเดือน โดยปกติแล้วธนาคารจะกำหนดไว้ที่ประมาณ 40% ของรายได้ ซึ่งแน่นอนว่ารายได้ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนมีรายได้คงที่ บางคนมีรายได้ไม่แน่นอน รวมไปถึงเงินโบนัส จะถูกนำมาคิดเป็นรายรับทั้งหมด
• รายจ่าย และหนี้สินทั้งหมด รายจ่าย รวมไปจนถึงหนี้สิน จะถูกยกมาประเมิน ธนาคารจะใช้วิธีพิจารณาโดยการคำนวณเงินเดือนผ่อนบ้านด้วยการแบ่งอัตราส่วนเงินออกเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยธนาคารจะกำหนดเงินที่สามารถผ่อนได้สูงสุดอยู่ที่ประมาณ 40% และในอีก 60% จะเป็นรายจ่ายส่วนต่าง ๆ
• ประวัติการชำระหนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก คือประวัติการชำระหนี้ หากคุณมีประวัติชำระหนี้ล่าช้า ไม่ตามรอบ ธนาคารอาจอนุมัติเงินกู้ให้ แต่วงเงินที่ได้อาจต่ำกว่าระดับปกติ
ประมาณการวงเงินกู้เบื้องต้น
สำหรับคนที่กำลังจะกู้ซื้อบ้าน อาจจะมีความกังวลในเรื่องของเงินเดือน ว่าเงินเดือนเท่านี้ สามารถผ่อนบ้านได้เท่าไหร่ ยอดวงเงินกู้สูงสุดแค่ไหน โดยคำถามเหล่านี้สามารถหาคำตอบได้ด้วยการคำนวณจากสูตร และนำผลลัพธ์จากการคำนวณนี้ ไปประมาณการยอดวงเงินกู้และยอดผ่อนชำระสูงสุดของผู้กู้เบื้องต้น เพื่อวางแผนทางการเงิน โดยดูจากสูตรตามตัวอย่างด้านล่างนี้
ซ้อมผ่อนลม 6 เดือน ก่อนผ่อนบ้านจริง
สำหรับผู้ที่มีความกังวล ว่าจะสามารถผ่อนได้ตามที่คำนวณออกมาจริงหรือไม่ มีอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราสามารถประเมินกำลังการผ่อนของตนเองได้คือการ “ซ้อมผ่อนลม” คือการซ้อมผ่อน โดยห้ามถอนเงินข้อนี้เด็ดขาดจนกว่าจะครบ 6 เดือน หากสามารถทำได้โดยไม่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิต หรือต้องกู้หนี้ยืมสินมาจับจ่าย เท่ากับว่าเรามีกำลังที่จะสามารถซื้อบ้านได้ ตามตัวอย่าง ดังนี้
แชร์บทความนี้