ส่องมาตรการอสังหาฯ 2567 คนซื้อบ้าน คอนโดควรรู้ !
ส่องมาตรการอสังหาฯ 2567 คนซื้อบ้าน คอนโดควรรู้ !
สำหรับใครที่แพลนซื้อบ้านในปีนี้ ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านสักหลัง เราอยากให้ทุกท่านลองเช็กมาตรการดี ๆ จากภาครัฐกันเสียก่อน เพราะในปี 2567 เป็นอีกปีที่ทางรัฐบาลและหลาย ๆ ธนาคาร ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อช่วยเหลือคนอยากมีบ้าน สนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ซึ่งแต่ละมาตรการที่ออกมานั้น มีจุดเด่นที่น่าสนใจแตกต่างกัน #คุยเรื่องบ้านกับพีบีเอ จึงขออาสาพาไปส่องมาตรการดี ๆ ทั้งจากภาครัฐและธนาคารที่ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
1. ลดค่าโอนและจดจำนองเหลือ 0.01%
มาตรการแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567 โดยมาตรการนี้สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ต่อสัญญา (เฉพาะจดทะเบียนโอนในคราวเดียวกัน) ซึ่งปรับลดลงมาจากเดิมเหลือเพียง 0.01% ดังต่อไปนี้
- ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์จากเดิม 2% เหลือ 0.01%
- ค่าจดจำนองจากเดิม 1% เหลือ 0.01%
ยกตัวอย่าง ถ้าเราซื้ออสังหาฯ ในราคา 7,000,000 บาท จากเดิมต้องเสียค่าธรรมเนียมการโอน+จดจำนอง 210,000 บาท จะเหลือเพียง 1,400 บาท ที่ต้องจ่ายเท่านั้น ซึ่งถือว่าช่วยประหยัดลงไปได้มากทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจำนอง จะเป็นในส่วนของการซื้ออสังหาริมทรัพย์ใหม่ ในกรณีของการ Refinance ถือว่าไม่เข้าเกณฑ์จึงไม่ได้รับการลดหย่อนค่าธรรมเนียมดังกล่าว
ระยะเวลาโครงการ : วันนี้ – 31 ธันวาคม 2567
2. ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน
ผู้ที่มีแพลนจะปลูกสร้างบ้าน ทางภาครัฐก็มีมาตรการออกมาช่วยเหลือเช่นเดียวกัน สำหรับผู้ที่สร้างบ้านเองสามารถนำค่าก่อสร้างไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ ตามที่ระบุไว้ในสัญญาก่อสร้าง โดยมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ลดหย่อนภาษีได้ 10,000 บาท ต่อทุกการสร้าง 1,000,000 บาท
- ค่าลดหย่อนรวมแล้วสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท หักลดหย่อนค่าจ้าง ก่อสร้างบ้านให้แก่ผู้รับจ้าง
- ลดหย่อนได้เฉพาะค่าก่อสร้างบ้านไม่เกิน 1 หลัง ( ในปีภาษีที่ก่อสร้างบ้านเสร็จตามสัญญา)
- มาตรการนี้สำหรับสัญญาจ้างและการก่อสร้างในช่วง 9 เม.ย. 2567 – 31 ธ.ค. 2568
ระยะเวลาโครงการ : สำหรับสัญญาจ้างและการก่อสร้างบ้านในช่วง 9 เม.ย. 2567 – 31 ธ.ค. 2568
3. สินเชื่อ Happy Home จาก ธอส.
มาดูฝั่งธนาคารกันบ้าง โดยทางธนาคาร ธอส. ก็ได้ออกสินเชื่อบ้าน Happy Home มีอัตราดอกเบี้ย 3% คงที่ 5 ปี เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร, บ้าน, คอนโดมิเนียม หรือการปลูกสร้างบ้านใหม่ โดยเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
- วงเกินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อรายต่อหลักประกัน
- ระยะเวลากู้ไม่น้อยกว่า 3 ปี และสูงสุดไม่เกิน 40 ปี
- อายุผู้กู้รวมกับจำนวนปีที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี (ยกเว้นข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี)
ระยะเวลาโครงการ : วันนี้ – 30 ธันวาคม 2568
4. สินเชื่อ Happy Life จาก ธอส.
นอกจากสินเชื่อ Happy Home แล้วทาง ธอส. ได้มีการออกสินเชื่อ Happy Life สำหรับซื้อ, สร้าง, ต่อเติมซ่อมแซม หรือ Refinance โดยดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.98% เงื่อนไขมีดังต่อไปนี้
- รายได้ผู้กู้ 25,000 บาท
- ดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี
- ปีที่ 1 = 1.95%
- ปีที่ 2 = 3.5%
- ปีที่ 3 = 3.5%
- วงเงินกู้ตั้งแต่ 2.5 ล้านบาท ขึ้นไป
- ระยะเวลากู้ไม่น้อยกว่า 3 ปี และสูงสุดไม่เกิน 40 ปี
- อายุผู้กู้รวมกับจำนวนปีที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี (ยกเว้นข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี)
ระยะเวลาโครงการ : กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้เงิน ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 28 มิถุนายน 2567 และ กำหนดระยะเวลาอนุมัติและทำนิติกรรมสัญญาภายใน วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 (โครงการอาจสิ้นสุดก่อนกำหนดเมื่อวงเงินเต็ม 10,000 ล้านบาทแล้ว)
5. ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อบ้าน สินเชื่อบ้านออมสินเพื่อคนไทย
สินเชื่อบ้านธนาคารออมสินเองก็น่าสนใจเช่นกัน เริ่มผ่อนขั้นต่ำเพียงเดือนละ 2,500 บาท สำหรับซื้อ สร้าง หรือ Refinance ซื้อที่อยู่อาศัยหรือปลูกสร้างไม่รวมที่ดินเปล่า โดยดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.95% ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี มีเงื่อนไขดังนี้
- ซื้ออสังหาฯใหม่ วงเงินกู้สูงสุด 7 ล้านบาท
- Refinance วงเงินกู้ขั้นต่ำ 1 ล้านบาท สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท
- ดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี (ต้องทำประกัน หากไม่ทำประกันจะคิดดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 3.2%)
- ปีที่ 1 = 1.95%
- ปีที่ 2 = 2.95%
- ปีที่ 3 = 3.95%
- รวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี
ระยะเวลาโครงการ : กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้เงิน ตั้งแต่ 17 เมษายน – 30 ธันวาคม 2567 และ กำหนดระยะเวลาอนุมัติและทำนิติกรรมสัญญาภายใน วันที่ 30 มกราคม 2568 (โครงการอาจสิ้นสุดก่อนกำหนดเมื่อวงเงินเต็ม 10,000 ล้านบาทแล้ว)
6. การเคหะแห่งชาติจัดโปรโมชันเช่าบ้านราคาพิเศษ
นอกจากมาตรการดี ๆ สำหรับคนซื้อและสร้างบ้านแล้ว กลุ่มคนเช่าบ้านทางการเคหะแห่งชาติก็มีโปรโมชันเอาใจชาว First Jobber เช่นกัน กับโปรฯเช่าบ้านในราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 1,200 บาท/เดือน สำหรับกลุ่มที่มีรายได้น้อย หรือเช่าเพื่อซื้อในระยะสั้น 3-5 ปี โดยได้ทำการคัดเลือกโครงการในโซนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 7 ทำเล รวม 1,428 ยูนิต โดยสามารถเข้าถึงบ้านตั้งต้นได้ 3 วิธี ได้แก่
- Rent to Buy หรือเช่าเพื่อซื้อ เป็นการเช่าระยะสั้น 3-5 ปี และสามารถซื้อเป็นของตนเองภายในเวลาการเช่าหรือครบระยะเวลาเช่า
- ซื้อแล้วผ่อนชำระกับสถาบันการเงิน
- เช่าซื้อโดยตรงกับการเคหะแห่งชาติ
ระยะเวลาโครงการ : วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2567
หมายเหตุ : สามารถดูโครงการที่เข้าร่วมได้ที่เว็บไซต์ของ การเคหะแห่งชาติ
7. กู้ซื้อบ้านหลังแรกได้สูงสุด 110%
สำหรับใครจะกู้ซื้อบ้านหลังแรก ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ให้ผู้กู้ซื้อบ้านหลังแรก กู้ซื้อบ้านได้สูงสุด 110% ของมูลค่าหลักประกัน เพื่อนำส่วนเกินไปตกแต่งบ้านได้ รวมถึงถ้าซื้อบ้านในราคา 10 ล้านขึ้นไป สามารถลดเงินดาวน์ลงเหลือ 10% โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
- กู้เกิน 110% ได้เฉพาะบ้านหลังแรกที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท
- บ้านหลังที่ 2 จะไม่สามารถกู้เต็มได้ ต้องวางเงินดาวน์ 10-30% ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
- ราคาบ้านน้อยกว่า 10 ล้านบาท
- สัญญากู้บ้านหลังที่ 2 วางเงินดาวน์ 10% หากผ่อนบ้านหลังที่ 1 มานานกว่าหรือเท่ากับ 2 ปี
- สัญญากู้บ้านหลังที่ 3 วางเงินดาวน์ 20% หากผ่อนบ้านหลังที่ 1 มานานกว่า 2 ปี
- หากบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป
- สัญญากู้บ้านหลังที่ 2 วางเงินดาวน์ 20%
- สัญญากู้บ้านหลังที่ 3 วางเงินดาวน์ 30%
- ราคาบ้านน้อยกว่า 10 ล้านบาท
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย
8. ผ่อนปรนมาตรการ LTV สำหรับการกู้ร่วม
มาตรการสำหรับผู้ที่กู้ร่วมก็มีเช่นกัน หากผู้กู้ร่วมไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ให้ผ่อนปรนเสมือนยังไม่เป็นผู้กู้ในครั้งนั้น เพื่อช่วยบรรเทาให้ผู้กู้ร่วมที่ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ได้รับสินเชื่อตามความเหมาะสม และเปิดโอกาสให้ช่วยกันกู้ซื้อบ้านได้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องกู้ร่วมเพื่อช่วยเหลือคนในครอบครัวให้กู้ผ่าน แต่ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ใด ๆ เมื่อต้องการกู้ซื้อบ้านของตัวเองบ้างจะยังสามารถกู้ 100% ได้ ไม่ต้องวางเงินดาวน์ 10-20% ตามที่ LTV กำหนด
แชร์บทความนี้