เลือกซื้อบ้านอย่างไร ให้ถูกใจ ตอบโจทย์

          การเลือกซื้อทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น บ้านหรือคอนโด ย่อมต้องผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ทรัพย์สินนั้นเกิดความคุ้มค่า ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย แต่ถ้าใครกำลังเกิดข้อสงสัยว่าควรพิจารณาจากเรื่องอะไรบ้าง? #คุยเรื่องบ้านกับพีบีเอ วันนี้จะพาไปดู 4 ปัจจัยหลัก ว่าควรเลือกซื้อบ้านอย่างไร ให้ถูกใจ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยมากที่สุด

 

1. ประเมินความต้องการของครอบครัว

          พิจารณาได้หลายองค์ประกอบด้วยกัน ตั้งแต่ในส่วนของงบประมาณ จำนวนสมาชิกในครอบครัว จำนวนที่จอดรถ รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัวอื่น ๆ อาทิ การเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ปลูกต้นไม้ ไปจนถึงในเรื่องของการทำงาน สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องไปถึงเรื่องของรูปแบบบ้าน ซึ่งรูปแบบบ้านแต่ละรูปแบบ ก็เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยรูปแบบบ้านแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  • บ้านเดี่ยว เป็นลักษณะของบ้านหลังเดียว ตัวบ้านไม่ติดใคร มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง มีพื้นที่ว่างรอบตัวบ้าน เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่
  • บ้านแฝด เป็นลักษณะของบ้านหลังคู่ ซึ่งจะมีส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านทั้งสองหลังที่เชื่อมติดกัน อาทิ หลังคาโรงรถ ผนังห้องครัว คานบนดินหรือใต้ดิน โดยจะมีพื้นที่ว่างไม่ติดใครอยู่อีกฝั่ง บ้านแฝดจะมีลักษณะคล้ายกับบ้านเดี่ยว แต่จะมีพื้นที่ใช้สอยและความเป็นส่วนตัวที่น้อยกว่า เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง
  • ทาวน์โฮม เป็นลักษณะบ้านแถวติดกัน ใช้ผนังบ้านทั้ง 2 ฝั่งร่วมกับเพื่อนบ้าน ยกเว้นบ้านหลังแปลงมุม หรือบ้านหลังริมสุด บ้านทาวน์โฮมจะมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างจำกัด มีที่จอดรถไม่มาก เหมาะกับครอบครัวเริ่มต้นหรือครอบครัวขนาดเล็ก
  • โฮมออฟฟิศ ลักษณะจะคล้ายกับทาวน์โฮม แต่มีความสูงและพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า เหมาะสำหรับการเอาไว้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กและพักอาศัยร่วม มักอยู่ในทำเลเศรษฐกิจ ค้าขาย แต่ด้วยเหตุนี้จะทำให้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างน้อยจากการแบ่งพื้นที่สำหรับการทำธุรกิจ

2. ศึกษาข้อมูลโครงการที่สนใจ
          เมื่อประเมินความต้องการของสมาชิกในครอบครัว จนได้รูปแบบบ้านที่สนใจแล้ว ลำดับถัดไปคือการเลือกโครงการที่สนใจ เพื่อพิจารณาเปรียบเทียบความคุ้มค่า อาจเริ่มจากการรวบรวมข้อมูลของแต่ละโครงการ และเดินทางไปเยี่ยมชมโครงการจริงเพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยควรพิจารณาอย่างละเอียดถึงปัจจัย ดังนี้

  • ทำเล เป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม ควรพิจารณาว่าทำเลนั้นน่าสนใจหรือไม่ สามารถเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก อาทิ ที่ทำงาน โรงเรียน โรงพยาบาล แหล่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ห้างสรรพสินค้า ตลาด ได้อย่างสะดวกสบายหรือไม่ ค่อยนำมาเปรียบเทียบกับสภาพแวดล้อมโดยรวมของแต่ละโครงการ
  • ส่วนกลางและบรรยากาศภายในโครงการ หากเป็นบ้านภายในโครงการ ควรตรวจสอบตั้งแต่เริ่มแรกว่าสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีอะไรบ้าง แล้วนำมาพิจารณาว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเราหรือไม่ ไปจนถึงเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย พื้นที่ส่วนกลางเพียงพอต่อผู้อยู่อาศัย และมีค่าใช้จ่ายดูแลรักษาส่วนกลางอย่างไร
  • ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เป็นอีกสิ่งที่ทำให้สามารถพิจารณาเลือกซื้อที่อยู่อาศัย เพราะมีชื่อเสียงของแบรนด์การันตี ทำให้ลดความเสี่ยงในบางเรื่องไปได้ อาทิ บ้านไม่ได้มาตรฐาน หรือบ้านไม่เสร็จตามกำหนด ตรวจสอบได้ง่าย

3. วัสดุและโครงสร้าง
          อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องของวัสดุ และการตกแต่ง เพราะสามารถบอกได้ถึงความแข็งแรงทนทานของบ้านได้ โดยพิจารณาดังนี้

  • ผนัง วัสดุที่แตกต่างย่อมมีข้อดีและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ถ้าผนังสร้างจากอิฐมอญจะมีความทนทานสูง ไม่เก็บเสียง และอมความร้อน อิฐมวลเบามีความทนทานปานกลาง แต่กันความร้อนและเก็บเสียงได้ดีกว่า ในส่วนของพรีแคส หรือ ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป มีความแข็งแรงและรับน้ำหนักได้มากกว่าอิฐทุกประเภท แต่ไม่สามารถทุบหรือต่อเติมได้ในอนาคต
  • เสาเข็ม มีผลต่อโครงสร้างระยะยาว 
  • โครงสร้าง ควรตรวจสอบว่าโครงสร้างบ้านมีความมั่นคงแข็งแรง คาน เสา ไม่มีรอยแตกร้าว สามารถเปิดปิดประตูและหน้าต่างได้อย่างสะดวก
  • ระบบไฟฟ้า เช็กระบบไฟฟ้าทำงานได้ปกติทุกจุด ปลั๊กไฟ เต้ารับไฟ สวิตช์ไฟ ใช้งานได้ ไม่มีประกายไฟ ไม่มีไฟรั่ว
  • ระบบน้ำ ตรวจสอบระบบน้ำสามารถทำงานได้ปกติ สามารถใช้งานท่อประปา ก๊อกน้ำ ได้โดยไม่มีน้ำซึมและไม่มีรอยรั่ว
  • พื้น กระเบื้องปูพื้นต้องเรียบสนิท ไม่มีรอยร้าวและรอยแตก ระดับลาดเอียงของพื้นในห้องน้ำหรือพื้นที่ต่าง ๆ มีความเหมาะสม ไม่เกิดแอ่งน้ำนอง
  • หลังคา ต้องไม่มีรอยรั่ว กระเบื้องมุงหลังคาเรียบสนิท รางน้ำฝน ท่อระบายน้ำ ทำงานได้ปกติ
  • รายละเอียดอื่น ๆ เช่น งานสี งานฝ้าเพดาน ราวบันได โดยตรวจสอบว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งไว้ อยู่ในสภาพดี สามารถใช้งานได้จริงหรือไม่

4. วางแผนด้านการเงิน
          เมื่อเราได้บ้านที่ถูกใจ ตอบโจทย์เราแล้ว ขั้นต่อไปคือการเตรียมความพร้อมทางด้านการเงิน ควรตั้งงบประมาณ เพื่อเตรียมยื่นกู้ขอสินเชื่อกับทางธนาคาร ซึ่งก่อนซื้อบ้านมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมพร้อม สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ค่าใช้จ่าย ที่ต้องเตรียมก่อนซื้อบ้าน 

แชร์บทความนี้